"รวบแล้วครับ!!"
กับคดีผู้ต้องหาคดีสำคัญ นาทีเป็นนาทีตาย!!
ที่มีเสียงร่ำไห้ คำขอร้องช่วยเหลือชีวิตของเด็กสาวขณะถูกกระทำทารุณ. ของเหยื่อผู้หญิงวัยเพียงอายุ16ปี เศษ และความกังวลของผู้เป็นญาติ มีเดิมพันชีวิต!!
หลังจากที่เด็กถูกพาตัวหายไปจากอำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ตะเข็บชายแดนของจังหวัดอุบลฯ เมื่อวันที่31มีนาคมที่ผ่านมา โดยไม่รู้ชะตากรรม
ทางญาติได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.น้ำขุ่น
ผมได้รับการประสานงานจากญาติ และตำรวจสภ.น้ำขุ่นที่รู้จักกันและรับปากว่าจะนำเด็กกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยให้ได้
ผมได้นำเรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นและผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างดี ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญของประชาชน
กองปรามจึงตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นวันนี้เมื่อตอนบ่ายสองเศษๆ(คอมมานโดกองปราบ)
โดยมีเหยื่อและน้ำตาเป็นตัวประกัน
ผมได้รับความร่วมมือกับชุดสืบสวนของภูธรจังหวัดอุบลฯและสภ.น้ำขุ่นเป็นอย่างดีเพื่อหาข้อมูลให้เร็วที่สุด
ผู้บังคับบัญชาชุดคอมมานโดกองปรามทุกท่านให้ความสำคัญ
ข้อมูลบางอย่างของผู้ต้องหารายสำคัญนี้เริ่มปรากฏชัดขึ้นจากการสืบสวน
ชื่อ นามสกุล เริ่มปรากฏ
หมายจับศาลจังหวัดอุบลฯออกได้ตอน4ทุ่มเวลาวันเดียวกันนี้
เสียงของญาติของเด็กผ่านสะท้อนมาทางสายโทรศัพท์ผม.
พร้อมกับน้ำตา!! ที่ผมพอรู้สึกได้
"มันมีปืนนะหัวหน้า อย่าให้หลานหนูเป็นอะไรนะ. "
ปลายสายของญาติหลังจากที่เด็กแอบกดโทรศัพท์มาบอกญาติได้ เพื่ออยากกลับบ้าน
"ผมเต็มที่ครับ. ไม่ต้องห่วง มันคือหน้าที่ของตำรวจครับ"
ผมพูดพร้อมกับให้กำลังใจ ไปทางปลายสาย
กำลังคอมมานโดพร้อมสองทุ่ม. ล้อพร้อมหมุน
รถตู้พร้อมอาวุธครบมือพร้อมเดินทางยังจุดเป้าหมาย 3ร้อยกว่ากิโลเมตรจากกรุงเทพฯ
และกี่ร้อยกิโลเมตรไม่รู้จากอุบลฯ ที่มันไปเอาตัวเด็กมา
มีชีวิตและนำ้ตา1ชีวิตเป็นเดิมพันของตำรวจ
ทุกอย่างเป็นไปตามเป้า
ตามข้อมูลสืบสวนของผม
ตี1.45 เมื่อสักครู่ปฏิบัติการจู่โจมคอมมานโดกองปราบนอกเครื่องแบบพร้อมอาวุธบุกเข้าบ้านเป้าหมายทันที
ณ.ตำบลหนองไม้แดง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพรช !!!!!!!!
ด้วยเหตุอันควรเร่งด่วน เกรงผู้เสียหายจะไม่ปลอดภัยในชีวิต
และผู้ต้องหาคือบุคคลอันตรายตามหมายจับ
มีพฤติกรรมใช้อาวุธปืน
และแล้ว ดวงมันก็ตกเป็นของผม พร้อมกับเหยื่อเด็กสาวชาวอุบลฯคนจังหวัดเดียวกับผม. อยู่ในบ้านจุดจับกุม
ผู้ต้องหาคือนายจันทร์ จันทร์สอน ชาวจังหวัดกำแพงเพรช ถูกชุดปฏิบัติการของผมจับกุมตัว
ส่วนเหยื่อ ปลอดภัย
ผมอดดีใจกับญาติเขาไม่ได้
ผมอดภูมิใจกับตำรวจไทยและตำรวจกองปราบไม่ได้เช่นกัน
ภารกิจเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา10ชั่วโมงเท่านั้นเอง
ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน
ขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกๆคน
ขอบคุณทีมงาน
ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่มีให้ผม.
และที่สำคัญขอบคุณเทวดา. ที่ยังขีดเส้นทางมือปราบของผมให้รับใช้ประชาชน
ถึงแม้ผมกำลังจะเตรียมตัวเข้าโบสถ์ก็ตาม
ผมกำลังนำตัวเข้ากทม.เพื่อที่แถลงข่าวที่คอมมานโดกองปราบเช้านี้
หลังจากนั้นผมจะต้องนำตัวเด็กกลับสู่อ้อมกอดของญาติเขาที่จังหวัดอุบลราชธานีต่อไป
03.20 ผมเหนื่อยแล้ว
ฝันดี 9โมงเช้าเจอกัน